วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบ Shape Tween

 Shape Tween คือการสร้างภาพเคลื่อนไหวให้วัตถุเปลี่ยนรูปร่างจากรูปหนึ่งเป็นอีกรูปหนึ่งเช่น จากรูป สี่เหลี่ยมเป็นรูปวงกลม หรือ จากรูปเป็นข้อความ เป็นต้น

ขั้นที่
 1 คลิกที่เฟรมที่ 1 แล้ววาดรูปวัตถุขึ้นมาหนึ่งรูป
     
ขั้นที่ 2 คลิกที่เฟรมที่ 1 (สำคัญมากเพราะถ้าไม่คลิกตัวเลือกจะไม่แสดงขึ้นในหน้าต่าง Properties)
เลือกคำสั่ง Shape ในช่อง Tween
    

ขั้นที่ 3 คลิกขวาที่เฟรมที่ 20 แล้วเลือกคำสั่ง Insert Keyframe
     
ขั้นที่ 4 คลิกเฟรมที่ 20 แล้วกดปุ่ม Delete ลบวัตถุเดิมออกตอนนี้บนไทม์ไลน์จะมีแถบเส้นประสีเขียว
    

ขั้นที่ 5 วาดรูปที่ต้องการให้เปลี่ยนลงไปในเฟรมที่ 20

     


ขั้นที่ 6 กดปุ่ม Ctrl+Enter เพื่อทดสอบการเปลี่ยนแปลงจะเห็นภาพค่อยๆเปลี่ยนจากรูปหนึ่งเป็นอีกรูปหนึ่ง
       

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เพิ่มคะแนนกลางภาค

1. จงให้คำนิยามศัพท์ดังต่อไปนี้

11.1.  Help Desk คือ

HelpDesk คือโปรแกรมช่วยเหลือในการทำงาน มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ระบบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านใดก็ตามที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของระบบ ตัวอย่างโปรแกรมจำพวก HelpDesk เช่น Abacus Helpdesk , ServiceDesk Plus เป็นต้น  หรือในอีกความหมายหนึ่ง HelpDesk ก็คือบุคคลผู้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ระบบ ซึ่งจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น Call Center, Customer Service, Web call center, Customer Care เป็นต้น
1.2. Social Analytics คือ
            Social Analytics คือ การเปรียบเทียบวิเคราะห์แปล
ความหมายของปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เราจะพบความสามารถดังกล่าวในซอฟแวร์ระบบสังคมวึ่งจะถูกใช้ในการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และบน Social Web

1.3. NFC Payment หรือ Near Field Communication Payment  คือ
            Near Field Communication (หรือ NFC) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นที่ใช้ได้ดีกับโครงสร้างพื้นฐานแบบไร้สัมผัส ช่วยสนับสนุนรองรับการสื่อสารระหว่างเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในระยะใกล้ๆ NFC ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sony และ NXP โดยใช้คลื่นความถี่ 13.56 MHz. บนพื้นฐานมาตรฐาน ISO 14443 (Philips MIFARE and Sony’s FeliCa) ปัจจุบันบริษัททั้งสองได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ลิตและพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ จัดตั้งเป็น NFC Forum เพื่อให้เกิดการใช้งานในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ในระยะเริ่มแรกมีบริษัทโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลกประกาศนำเทคโนโลยีนี้มา ใช้กับโทรศัพท์มือถือแล้ว เช่น Nokia, Samsung, Motorola เป็นต้น
การประยุกต์ใช้งานส่วนใหญ่มักนำ NFC มาใช้กับการชำระเงินที่ต้องการความรวดเร็วและมีมูลค่าไม่สูง ซึ่งจะทำให้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้เพื่อการชำระเงิน โดยวิธีการแตะบนเครื่องอ่านหรือเครื่องชำระเงิน เช่น การให้บริการในร้านอาหารจานด่วน ร้านขายสินค้า ระบบการซื้อขายตั๋ว และระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ peer-to-peer เช่น เพลง เกม และรูปภาพ การชำระเงินค่าโดยสารในระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น การชำระเงินแบบไร้สัมผัสนี้ก่อให้เกิดการชำระเงินที่ง่ายและรวดเร็ว ลดการเข้าคิวชำระเงินในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อต่างๆ
NFC Update
NFC หรือ Near Field Communications ปัจจุบันมีมาตรฐานคือ ISO 18092 ซึ่งตัว chip NFC ที่ available กันอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ก็มักจะสามารถ interop กับ มาตรฐานของ RFID ย่าน 13.56MHz พวก ISO 14443 A&B และ ISO 15693 ได้ เมื่อนำ NFC เข้าไปใช้ในมือถือ ก็จะมี applications อยู่หลักๆที่พูดกันอยู่สามสี่ตัวก็คือ เรื่องของ payment, ticketing, smart poster และ peer-to-peer communications ระหว่างมือถือด้วยกัน

1.4. Freeware คือ
ฟรีแวร์ (freeware) หมายถึง ซอฟต์แวร์ ที่พัฒนาขึ้นนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็จะมีข้อกำหนดในการใช้งานซอฟต์แวร์นั้น เช่น ซอต์แวร์นั้นไม่สามารถนำไปพัฒนาหรือแสวงหาผลประโยชน์จากซอต์แวร์ได้ ซึ่งจะคล้ายกับ แชร์แวร์ (shareware) คือ สามารถใช้งานได้เช่นกัน แต่จะมีเงื่อนไข หรือข้อจำกัดของการใช้งาน หรือกำหนดเวลาในการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อต่ออายุการใช้งาน หรือทำให้ซอฟต์แวร์ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1.5. Open Source คือ
            OpenSource คือ กลุ่ม software ที่เปิดเผย source code ของโปรแกรม ทำให้สามารถแก้ไข ดัดแปลง source code ได้หมด ซึ่งเป็นการให้สิทธิเสรีแก่ผู้ที่จะนำไปใช้เพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกันใน ลักษณะของสังคมซอฟต์แวร์
ข้อดีของโปรแกรมแบบ OpenSource 
1.Open Source เป็นโปรแกรมที่เปิดให้ใครก็ได้บนโลกนี้สามารถเข้ามาพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนั้นจึงมีนักพัฒนาโปรแกรมหลายคน จึงทำให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพสูง
2.Open Source ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ตัวอย่างโปรแกรมที่เป็น Open Source ก็อย่างเช่น PHP , My SQL, Star Office เป็นต้น นอกจากโปรแกรมแล้ว ยังมีระบบปฏิบัติการ Open Sorce อย่างระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาใช้ทดแทนวินโดวส์ของไมโครซอฟต์นั่นเอง
1.6. Shareware คือ
            Shareware คือโปรแกรมประเภททดลองใช้งาน ปกติแล้วจะหมายถึงโปรแกรมรุ่นทดลองใช้ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเหมือนกับเวอร์ชั่นเต็มทุกประการ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่คุณสมบัติบางอย่างอาจถูกตัดออกไป หรือบางโปรแกรมจะเป็นลักษณะของการจำกัดเวลาหรือจำนวนครั้งในการใช้งาน แต่ไม่จำกัดคุณสมบัติ เช่น ใช้ได้ 30 ครั้ง หรือ 30 วัน เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจาก Freeware ที่เป็นโปรแกรมแจกจ่ายให้ใช้ฟรีอย่างไม่มีข้อจำกัด หากต้องการใช้โปรแกรมแบบไม่มีข้อจำกัด ผู้ใช้ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อโปรแกรมเวอร์ชั่นสมบูรณ์จากผู้พัฒนา
1.7. sCRM (social Customer Relationship Management) คือ
            Social CRM หมายถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ (Social Customer Relationship Management) เป็นเครื่องมือที่กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนเสริมให้กับการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบดั้งเดิม ซึ่ง
Social CRM การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
จะช่วยให้เกิดการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทำให้องค์กรสามารถตอบโต้แบบตัวต่อตัวกับลูกค้าผ่านโลกออนไลน์ได้ทันที ทำให้เกิดการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของการทำ Social CRM แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นลูกค้าสังคมออนไลน์ ลักษณะของลูกค้ากลุ่มนี้คือจะรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น facebook, Twitter และ Google+ และให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารเหล่านั้น เรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เชื่อถือไว้ใจในสังคมออนไลน์ของตัวเอง ยินดีจะแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นกับคนอื่นๆ ในสังคมออนไลน์ มักหาข้อมูลเสริมที่สัมพันธ์กับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเพื่อตอบความต้องการของตัวเอง มักแสดงความคิดเห็นได้ทั้งแง่บวกและแง่ลบเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มีต่อสินค้าที่ใช้ และในเวลาเดียวกันก็คาดหวังว่าจะมีคนมาร่วมแสดงความคิดเห็นหรือคลายข้อข้องใจด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถทำได้หลายช่องทาง รวดเร็ว และไม่จำกัด ในโลกแห่งไซเบอร์จึงถือได้ว่าลูกค้าสังคมออนไลน์เป็นลูกค้าที่มีความสำคัญต่อรูปแบบและวิธีการในการเสนอสินค้าบริการขององค์กร
1.8       Innovation Skill  คือ
สร้างนวัตกรรมใหม่ มั่นฝึกฝน พัฒนาตัวเอง เรียนให้เกิดทักษะ เรียนโดยการปฏิบัติ
1.9       Maket Insight  คือ
สิ่งสำคัญในการทำการตลาดด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับมาการนำเอาข้อมูลเหล่านี้มาแปรผลเป็นข้อมูลเชิงลึก
1.10Virtual Machine คือ
โลกเสมือน มิติที่ถูกสร้างขึ้นใน Cyber Space โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปผ่านการเชื่อมโยงทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ทต่างๆ โดยเน้นให้ผู้เล่นหรือผู้ใช้ทั่วโลก ต่างมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย อิทธิพลของ Virtual World ส่งผลให้เด็กและเยาวชน และผู้ใหญ่เอง เกิดความหลงใหล มีจำนวนผู้เข้าไปในโลกแห่งนี้ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โลกเสมือน มิติหรือโลกเสมือนจริง ในปัจจุบัน มีตัวอย่างให้พวกเราได้เห็นกันหลายรูปแบบ



2. ให้ศึกษากล่าวถึงความสำคัญของ ICT และแนวคิดของเศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economy)หรือ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ในประเด็นดังต่อไปนี้
2.1. การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (ICT Driven Economy) ได้อย่างไร

การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการดำเนินธุรกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถดำเนินการ เลือกสินค้าคำนวณเงิน ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิตได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business)สามารถนำเสนอสินค้า ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชำระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้าโดยอัตโนมัติ กระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย
2.2. ICT ช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ (Knowledge Based Society) ได้อย่างไร
    เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความสะดวกสบาย
                 1.  เป็นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น  โดยสามารถเอาชนะเรื่องระยะทางเวลา และสถานที่ได้
                  2. มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกๆด้าน

                  3. เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย
             2.3. ยกตัวอย่างโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น พร้อมอธิบายคุณลักษณะเด่น ๆ ของโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นนั้น ๆ  ในการบูรณาการกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต
Appstore 
ข้อดี
-                   การคัดกรองคุณภาพก่อนที่ App ต่างๆ Apple จะรีวิว App ทุก App ก่อนจะนำเข้าสู่ App store ทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ก็ยังมี App กว่า 500,000 App ซึ่งมาจาก Developer จำนวน 85,000 เท่านั้นนอกจากนี้ App ที่คุณสร้างขึ้นมาก็สามารถขึ้นมาอยู่บนหน้าแรกของ App storeได้ ทำให้มีโอกาสทำเงินมากยิ่งขึ้น
ข้อเสีย

-                   ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องการคัดกรองคุณภาพนี่แหละ ที่มักจะใช้เวลาที่ไม่แน่นอนตั้งแต่ 2 วันถึงกว่า 2 สัปดาห์และถึงแม้ว่า Apple จะมีการแสดง App หน้าใหม่ที่ดีแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหา App อื่นๆ ที่นอกเหนือที่แสดงบนหน้าของ App store
3. ให้นักศึกษาอธิบายลักษณะเด่น ข้อดี/ข้อเสีย วิวัฒนาการของเทคโนโลยี Web1.0, Web 2.0 , Web3.0และ  Web4.0 มาให้เข้าใจมากที่สุด (อาจวาดภาพประกอบ)  (10 คะแนน)


web 1.0 คือ
การใช้งานอินเทอร์เน็ต (Internet) ในอดีต  เป็นการใช้ข้อมูลด้านเดียว(OnewayCommunication) ระหว่างเว็บ 1 เว็บจะมีผู้ใช้ 1 คนคือ web master หรือผู้สร้างเว็บเป็นผู้ให้ข้อมูล และ ผู้เข้าชมเว็บเป็นผู้รับข้อมูล จะรู้จักแค่ E-Mail, Chat Room, Download, Search Engine, Web board ส่วนมากจะใช้ภาษา HTML (HyperText Markup Language ) ต่อมาเริ่มมีการนำเอา Java Script และภาษา PHP (HyperText preprocessor) มาใช้งาน


ข้อดีของ     WEB 1.0    คือ ให้ข้อมูลข่าวสารในแบบสื่อสารทางเดียว
ข้อเสียของ  WEB 1.0  คือ ยากที่จะแบ่งปันส่งต่อเนื้อหาออกไป ผู้รับสารมีหน้าที่รับรู้ข่าวสารเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบได้ เช่น เดียวกับสื่อกระแสหลักอื่นๆ คือ หนังสือพิมพ์ วิทยุ

                web 2.0 คือ
เครือข่ายทางสังคม (Social network) ที่เน้นการแบ่งปัน (Sharing) รูปภาพ สื่อต่างๆ (Multimedia) รวมทั้งข้อมูลที่สมาชิกภายในกลุ่มเครือข่ายสังคมนั้นมีอยู่อย่างแท้จริง
web 2.0 เป็นการติดต่อ 2 ทาง (Two-way Communication) และผู้ใช้ยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์  (Co-Creation) และนำเสนอ Content ไม่ใช่ Content Provider (ผู้นำเสนอเนื้อหาข้อมูล ความรู้)  อีกต่อไป
ในยุค Web 2.0 ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ ( Read-Write ) เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ เช่น
                วิกิพีเดีย  สารานุกรมออนไลน์  ( http://www.wikipedia.org/  , http://th.wikipedia.org/ )
เว็บบล็อก ( http://www.wordpress.com/  ,  www.blogger.com ) 
สื่อร่วมกัน Youtube.com, Flickr.com เครือข่ายทางสังคม Hi5, Twitter Sourceforge.org, Google Maps Google Earth


ข้อดีของ Web 2.0  สามารถต่อยอดข้อมูลต่างๆออกไปได้ไม่จำกัด  และข้อมูลจะถูกตรวจสอบคัดกรองอยู่ตลอด ตัวอย่างเช่น Wikipedia  ที่ใครก็สามารถเขียนในสิ่งที่ตนรู้ลงไปได้
Web 2.0 ยังก่อให้เกิดการตลาดแบบใหม่  สร้างงาน   สร้างธุรกิจเงินล้านบนอินเตอร์เน็ต  ก่อให้เกิดนักธุรกิจในโลกออนไลน์มากมาย
ข้อเสียของ WEB 2.0  ในการพัฒนามากขึ้นย่อมมีปัญหาตามมานั่นก็คือ   การละเมิดลิขสิทธิ์ 
Samy  Kamkar  กำลังพยายามสร้างประวัติศาสตร์การแฮ็กโดยที่เขาสร้างหนอนตัวแรกของเว็บ  2.0  ซึ่งเป็นักที่อันตรายโดยที่มันจะเจาะระบบป้องกันแบบที่  Firewall  ไม่สามารถป้องกันได้เลย       และจากการแผลงฤทธิ์ยังทำให้เว็บ  MySpace.com  ต้องปิดลงชั่วคราว

Web 3.0 คือ
Web = อ่าน / เขียน / ความสัมพันธ์กับเมตาดาต้าข้อมูลที่มีโครงสร้าง + บัตรประจำตัวที่มีการจัดการ
Web 3.0 เป็นการนำแนวคิดของ Web 2.0 มาทำให้ Web นั้นสามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Metadata ที่หมายถึงข้อมูลที่บอกรายละเอียดของข้อมูล (Data about data)ทำให้เว็บกลายเป็น Semantic Web คือ ตัว Web จะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น แล้วให้ Tags ตามความเหมาะสมให้เราแทน โดยข้อมูลแต่ละ Tag จะมีความสัมพันธ์กับอีก Tagหนึ่งโดยปริยาย ทำให้อินเตอร์เน็ตกลายเป็นฐานข้อมูล ความรู้ขนาดใหญ่ ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบมากขึ้น



Web 3.0 จะพัฒนาไปในลักษณะ Segment of One คือ Segment ที่มีบุคคลแค่คนเดียว หรือ ตอบโจทย์ความเป็นส่วนบุคคล เช่น อยากไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ เมื่อค้นข้อมูลแล้วเว็บไซต์จะ เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะจากสายการบินต่างๆ แพ็กเกจไหนดีที่สุด และนำมาเช็ค กับตารางของผู้ใช้ว่าตารางเวลาตรงกันไหม หรือจะนำไปเช็คกับตารางของเพื่อนที่ญี่ปุ่นใน Social Network เพื่อนัดเวลาที่ตรงกันเพื่อพบปะทานข้าวร่วมกันก็ได้
ในยุคสื่อดิจิตอล โลกอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญในการประยุกต์ใช้ไอทีเพราะอินเทอร์เน็ตช่วยให้ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารรอบโลกได้อย่างรวดเร็วช่วยให้ติดต่อกับคนหรือหน่วยงานภายในและนอกประเทศได้ ภายในพริบตา รูปแบบที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง (view ,create ,copy ,share etc.) ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย อุปกรณ์ใดๆที่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก้าวต่อไปของสื่อใหม่จะเป็นการเชื่อมโยงและผสมผสาน Digital content เหล่านั้นเข้าด้วยกันที่เรียกว่า Mash Up อันเป็นพื้นฐานของเว็บ 3.0 ที่ได้รับการพัฒนาให้มี ความฉลาดรู้ หรือ มี AI (Artificial Intelligence) สามารถค้นหา และคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค แต่ละคนได้  อุปกรณ์ไอที Gadget ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Notebook/ Netbook/ Smart Phone / MID (Mobile Internet Device), Digital Photo frame, Ebook หรือแม้แต่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Digital home appliance)จะได้รับการ พัฒนาให้มีความฉลาดในการทำงานมากขึ้น ทั้งขนาด คุณสมบัติ การทำงาน และราคา
ข้อดีของ web3.0 มีข้อดีตรงที่ สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้ สามารถคาดเดาสิ่งต่างๆได้       Web 3.0 = อ่าน/เขียน/ความเกี่ยวข้องข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของ Metadata หรือข้อมูลที่มีการบอกรายละเอียดของข้อมูลอีกที ความสามารถในการจัดการกับข้อมูลที่มีความสลับซับซ้อนได้ โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหามีความหลากหลายมากขึ้น มีการแบ่งหมวดหมู่ต่างๆ มากขึ้น ซึ่ง Web 3.0 จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้เห็นภาพชัดเจน รวมถึงลิงก์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาไว้ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ช่วยเพิ่มโอกาสให้มีคนเข้าชมหน้าเว็บของเราหรือเนื้อหาของเราได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บ ขณะเดียวกันก็จะทำให้เข้าถึงความต้องการแต่ละบุคคลได้มากขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นเนื่องจาก Web 3.0 มีปริมาณความจุที่สามารถรองรับข้อมูลได้มากกว่าเดิม มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ บนเว็บ
ข้อเสียของ Web 3.0 ต้องมีการพัฒนาความสามารถในการพัฒนาเว็บให้มากขึ้นบุคลากรต้องมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ก็ถือเป็นข้อจำกัด ทำให้คนมาทำเว็บน้อยลงแต่ก็เป็นการคัดกรองเว็บที่จะเกิดให้มีคุณภาพไปด้วย
Web 4.0 คือ
 จาก Web 3.0 ก็กลายมาเป็น Web 4.0 หรือที่เขาเรียกกันว่า "A Symbiotic web" คือเว็บไซต์ที่ทำงานแบบ Artificial Intelligence (AI) ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์สามมารถคคิดได้ มีความฉลาดมากขึ้น ในการอ่านทั้งเนื้อหา ข้อความ และรูปภาพ หรือวีดีโอ ก็สามารถที่จะตอบสนองแล้วตัดสินใจได้ว่าจะ load ข้อมูลอะไร จากไหนที่จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุดมาให้ผู้ใช้งานก่อน และนอกจากนี้แล้วยังมีรูปแบบของการนำมาแสดงที่รวดเร็ว Web 4.0 จะทำให้ข้อมูลต่างๆ สามารถทำงานได้แทบจะทุกDevice หรืออาจจะช่วยระบุตัวตนที่แท้จริงของผู้ใช้งาน


4.ให้นักศึกษากล่าวถึงประโยชน์และโทษของ Application หรือโปรแกรม ดังต่อไปนี้ ในแง่ของการประยุกต์ใช้งานกับธุรกิจ ( 20 คะแนน)
4.1  Weblog หรือ Blog
ข้อดี
  - Blog เป็นหนึ่งในช่องทางของการประชาสัมพันธ์ใน เครือข่ายสังคมอินเทอร์เน็ต นอกเหนือไปจากเครื่องมืออื่นๆ ที่ทุกท่านคุ้นเคยมานานเช่น Banner Ad,  Pop-up, Webboard Posting, E-mail/Forward Mail Marketing,
  - เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทกับลูกค้า: Blog ให้ความรู้สึกแบบเป็นส่วนตัวและเป็นมิตรกับลูกค้าได้มากกว่าช่อง ทางอื่น และ Blog นี่เองที่เป็นช่องทางที่รวดเร็ว ที่สุดในการสื่อสารแบบโต้ตอบทันทีกับลูกค้าโดยไม่มีข้อจำกัด
  - ใช้เป็นสื่อในการสื่อสารระหว่างบริษัทกับสื่อต่างๆ เช่นหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ ฯลฯ ที่ได้เข้ามาใน Blog ขององค์กร เพื่อติดตามข่าวสาร
  - การเขียน blog สำหรับบันทึกเล่าเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ
ข้อเสีย
   - บล็อกเกอร์มีอิสระในการนำเสนอ โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบจากใครก่อน อาจโพสเรื่องที่ไม่เหมาะสม เรื่องที่หมิ่นเหม่ หรือ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ผิดประเพณีและศีลธรรมอันดีได้ จึงต้องมีกติกาให้ตัวเอง หรือใช้จริยธรรมของแต่บุคคล ความมีเหตุมีผล ความระมัดระวัง รอบคอบ ของบล็อกเกอร์มากำกับไว้เอง
  - ผู้ให้บริการบล็อก ไม่สามารถกลั่นกรองเนื้อหาได้ 100% เว้นแต่จะสร้างระบบกรองคำหยาบ คำต้องห้ามไว้เพื่อให้มีการตรวจทานก่อนเผยแพร่ อาจมีความเสี่ยงเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย

4.2  Face book และ Fan page
ข้อดี
  - สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆได้
  - facegook ทำให้เรารู้จักคนอื่นๆได้
  - ได้ยอดค้นเว็บไซต์มากขึ้น
  - ทำให้คนอื่นๆคลายเครียดได้
  - ได้ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต
ข้อเสีย
  - ทำให้นักเรียนหรือนักศึกษาเสียการเรียน
  - ทำให้สายตาของเราเสียเพราะแสงสะท้อน
  - ทำให้เยาวชนไทยเชื่อมเสียได้ง่าย

4.3 YouTube
ข้อดี
  - ลงคลิปให้คนดูได้ฟรี   - คนดูดูฟรี
  - เป็นแหล่งรวบรวมความบันเทิง
ข้อเสีย
  - อาจมีการละเมิดลิขสิทธิ์
  - อาจมีการกระทำที่ไม่ดี เช่น สอนทำระเบิด

4.4 Webboard หรือ Forum
ข้อดี
เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร ถามตอบ หรือประกาศข่าวสารต่างๆ
เป็น web2.0 ที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้โดยการแสดงความคิดเห็น
ผู้ใช้หน้า homepage สามารถนำไปเป็นแหล่งที่สื่อสารหรือประกาศข่าวได้
ข้อเสีย
-       สามารถใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดีได้ โดยการโพสต์ข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่น ทําให้เกิดความเสื่อมเสีย
สามารถใช้เป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพได้
ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์จนเกินขอบเขต กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และผู้ส่งข้อความไม่แสดงความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น
การใช้เว็บบอร์ดในทางที่ผิด ส่งผลให้เกิดการหมกมุ่น หรือใช้เวลากับเว็บบอร์ดมากจนเกินความจําเป็น เป็นการเสียเวลาและส่งผลเสียกับผู้ใช้ในหลายๆ ด้าน
4.5 Dropbox / Skydrive  
ข้อดี
  - บันทึกข้อมูลได้หากเราไม่มี flashdrive
  - แชร์แบ่งปันข้อมูล และ ประมวลผลข้อมูลด้วย
ข้อเสีย
  - มีการจับระเบียบไฟล์เป็นหมวดหมู่ที่ดีนัก
  - มีการจำกัดหรือเงื่อนไขในการฝากไฟล์ค่อนข้างมาก

4.6 twitter
ข้อดี
  - สามารถเข้าถึงคนกลุ่มมากในระยะเวลาอันสั้น - ส่งข่าวสารได้เร็วมาก
  - สามารถส่งข่าวสารให้กับคนที่ follow เราทั้งหมดได้ในลักษณะของshort message ในเพียงพริบตาไม่เสียค่าบริการ
ข้อเสีย
 - twitter แต่ข้อเสียในการใช้งานแบบส่วนตัวเกินไปก็มีมากทวิตเตอร์มีการจำกัดตัวอักษรในช่องเวลาเราพิมพ์

4.7 Skype
ข้อดี
  - สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน เพราะสามารถใช้ไมโครโฟนที่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถพูดคุยได้
  - สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  - มีคุณภาพเสียงที่ดี ไม่มีเครื่องรบกวน
ข้อเสีย
  - ต้องมี CPU 400 MHz ขึ้นไป
  - ต้องมี RAM 128 mb ขึ้นไป
  - มีพิ้นที่ว่างฮาร์ดดิสอย่างน้อย 10 MB เป็นต้น

4.8 Line
ข้อดี
-ใช้สำหรับโทร ไม่ว่าจะเป็นการโทรด้วยเสียงหรือการโทรด้วยวีดีโอ ข้อดีของการโทรด้วยline ก็คือ ไม่เสียค่าโทรศัพท์ เพราะการโทรผ่านไลน์ ใช้แพ็คเกจอินเตอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้ประหยัดเงินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างประเทศ สามารถโทรหากัน โดยไม่เสียค่าโทรศัพท์ทางไกล
สื่อสารผ่านทางข้อความ สามารถสนทนาเป็นรายบุคคล หรือกลุ่มบุคคลก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถ ส่งรูปภาพ หรือไฟล์คอมพิวเตอร์ประเภทอื่นได้อีกด้วย จุดเด่นของ line ในการสนทนา ผ่านทางข้อความได้แก่การส่งรูปภาพตัวการ์ตูนที่เรียกว่าสติ๊กเกอร์ซึ่งช่วยให้ลดปริมาณการพิมพ์ข้อความลงได้มากและถือเป็นลูกเล่นที่ทำให้ line ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
การโพสต์ข้อความบนไทม์ไลน์ของ line มีลักษณะเช่นเดียวกันกับการโพสต์ข้อความบนfacebook ซึ่งเป็นการแสดงความรู้สึกหรืออยากแบ่งปันรูปภาพกิจกรรมต่างๆ เรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ  แบบไม่เฉพาะเจาะจง
- Line Keep ความสามารถใหม่ของ line ช่วยให้เราสามารถ เก็บไฟล์เอาไว้กับ line และสามารถแชร์ไปยัง application อื่นๆได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังสามารถประยุกต์ใช้ Keep ในการส่งไฟล์จากคอมพิวเตอร์ ไปสู่สมาร์ทโฟน หรือส่งไฟล์จากสมาร์ทโฟน ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือว่ามีความสะดวกเป็นอย่างมาก
 -นอกจากความสามารถของ application line เองแล้วยังมี application อื่นที่พัฒนาขึ้นมาและสามารถนำมาใช้ร่วมกับรายได้อีกมากมายเช่น line tv, line tool, line brush เป็นต้น
ข้อเสีย
- Social Network เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
- เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น
- ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้
- ผู้ใช้ที่เล่น social  network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้หรือบางคนอาจตาบอดได้     
- ถ้าผู้ใช้หมกหมุ่นอยู่กับ social  network มากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้
จะทำให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์

4.9 โปรแกรมระบบปฏิบัติการแบบ Open Source
ข้อดี
-                   Open Source Software ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูงขึ้น
-                   สามารถเริ่มใช้งาน Open Source Software ได้อย่างรวดเร็ว
-                   Open Source Software มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ามากกว่า
-                   Open Source Software สามารถเริ่มจากระบบเล็กๆ ก่อน และเพิ่มขยายภายหลังได้
-                   Open Source Software มีความปลอดภัยของข้อมูลมากกว่า
-                   Open Source Software สามารถดึงดูดพนักงาน IT ที่มีความสามารถสูงได้
-                   การใช้ Open Source Software สามารถลดค่าใช้จ่ายในการ Maintenance ลงได้
-                   Open Source Software มีอนาคตอีกยาวไกล
ข้อเสีย
-                   ถูก hack
-                   ติด spam หรือ malware
-                   หน้าเว็บเปลี่ยนไปเป็นหน้าอื่น
-                   เข้าระบบไม่ได้อีก
-                   หน้าเว็บ หายไปเลย
-                   ถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีเว็บอื่น
-                   ถูก bomb ส่งอีเมลออกเป็นจำนวนมาก

4.10 โปรแกรมอะไรก็ได้ที่นักศึกษารู้จักและชอบใช้งาน (นอกเหนือจากที่กล่าวมา )
Adobe Flash Professional 
        ในการออกแบบงานประเภทมัลติมีเดียนั้น Flash คือโปรแกรมที่คุณอาจเลือกใช้แต่ทีนี้จะเหมาะสมหรือมีคุณสมบัติตรงกับรูปแบบงานของคุณหรือไม่อย่างไร ต้องลองดูวิเคราะห์ข้างล่างนี้ค่ะ

        จุดเด่นในการใช้ Flash
- ง่ายและให้คุณอิสระต่อการพัฒนางาน ในแบบที่คุณไม่สามารถหาได้จากไหนอีกแล้ว
- เหมาะกับการงานแบบอินเตอร์แอคทีฟ เช่นหากคุณต้องการจะใส่เสียงเพลง หรือเสียงพูดลงไป หรือแม้แต่ใส่ภาพวิดีโอ ก็สามารถทำได้ จริงว่าโปรแกรมอื่น เช่น Window Media Player หรือ Real Player ก็คือสามารถทำได้เช่นกัน แต่ 97% ก็เลือกใช้แฟลช
- สามารถเปิดใช้เล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ พีดีเอ โทรศัพท์มือถือ ทีวีบนรถยนต์ หรือแม้แต่นาฬิกาข้อมือ ภาพของงานที่ใช้โปรแกรมแฟลชก็ยังคงดูได้ไร้กังวล
- ใช้งานร่วมกับโปรแกรมหรือไฟล์งานอื่นได้มากมาย เช่น GIF JPEG PNG PCT TIF FreeHand EPS Illustrator WAV AIF และ MP3
ใช้ฟอนต์ได้ง่าย โดยคุณไม่ต้องทำการคอนเวิร์ทฟอนท์ให้ยุ่งยาก
- เป็นโปรเจ็คเตอร์ฉายหนังอย่างเดียวก็ยังได้
- ไม่ต้องรีโหลดหรือรีเฟรช ข้อมูลสามารถอัพเดทได้เองอัติโนมัติ

        จุดอ่อนของการใช้ Flash
- การใช้แฟลชจำเป็นต้อง Install โปรแกรมลงเครื่อง ซึ่งอาจมีปัญหาสำหรับบางบริษัทที่ไม่อนุญาตให้พนักงานลงโปรแกรมในคอมพิวเตอร์บริษัท
- flashการเล่นภาพหรือวิดีโอด้วย Flash MX ยังไม่สามารถให้คุณภาพได้ดีเท่ากับปกติ
- สำหรับคุณที่ต้องการให้คอนเท็นท์ของคุณแสดงในเสริ์ชเอ็นจิ้นเว็บต่างๆ แต่คอนเท็นท์บนแฟลชไม่สามารถโชว์บนเสิร์ชเอ็นจิ้นได้
- มีปัญหาในการพิมพ์งาน (Print) ที่ยุ่งยาก
จุดแข็ง-จุดอ่อน-flash